ร่วมพิธีทำบุญตักบาตร เนื่องในวันคล้ายวันพระราชสมภพ สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชนนี

เมื่อ 21 ต.ค.2552 นายพรสักก์ พิทักษ์ธรรม
ผู้พิพากษาหัวหน้าศาล จังหวัดสงขลา
พร้อมด้วยข้าราชการ ลูกจ้าง ศาลจังหวัดสงขลา
ร่วมพิธีทำบุญตักบาตร เนื่องในวันคล้ายวันพระราชสมภพ
สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชนนี ณ วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี
ต.บ่อยาง อ.เมือง จ.สงขลาโดยมี
นาย วิญญู ทองสกุล ผวจ.สงขลา เป็นธานในพิธี









จากการที่สมเด็จย่าทรงพระเมตตาอยากให้ปวงประชามีฟันดี จึงทรงทรงก่อตั้งหน่วยแพทย์อาสาสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนีขึ้น ซึ่งเรียกกันย่อๆ ว่า "พอ.สว." ก็เพื่อ ให้การรักษาพยาบาลแก่ประชาชนในถิ่นทุรกันดาร โดยพระองค์เป็นนายิกากิตติมศักดิ์ พระองค์ทรงสนพระทัยในเรื่องบริการทันตกรรมเป็นพิเศษ ได้ทรงกำชับไว้ว่า "ต้อง มีทันตแพทย์ไปช่วยชาวบ้านทุกครั้ง เนื่องจากคนไข้ในท้องถิ่นทุรกันดาร เมื่อมีโรคฟันจะต้องทนทุกข์ทรมานและไม่สามารถช่วยตนเองได้ ดังนั้นต้องให้มีทันตแพทย์ไปช่วยโดยด่วน" ทันตบุคลากรจึงเป็นส่วนหนึ่งของทีมอาสาสมัครของหน่วยแพทย์พอ.สว. ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2512 เป็นต้นมา

ที่มาของวันทันตสาธารณสุขแห่งชาติ

จนในปี พ.ศ. 2529 มูลนิธิพอ.สว. ได้ประสานงานกับกระทรวงสาธารณสุข คณะทันตแพทยศาสตร์ ทุกมหาวิทยาลัย กรุงเทพมหานคร และทันตแพทยสมาคมฯ เริ่มจัด "กิจกรรมรณรงค์ทางทันตสาธารณสุข" เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล เนื่องในวันพระราชสมภพ 21 ตุลาคม โดยระดมทันตบุคลากรอาสาสมัครทั้งภาครัฐ และเอกชนทั่วประเทศ ออกให้บริการตรวจรักษาโรคในช่องปาก โดยไม่คิดมูลค่าแก่ประชาชนในถิ่นทุรกันดาร 48 จังหวัด และได้จัดกิจกรรมนี้ต่อเนื่องทุกปี จนถึงปี พ.ศ. 2532 คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติให้วันที่ 21 ตุลาคม เป็น "วันทันตสาธารณสุขแห่งชาติ"

จึงถือได้ว่าวันทันตสาธารณสุขแห่งชาติ มีที่มาจากพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่าน ต่อราษฎรผู้ทุกข์ทรมานด้วยโรคฟัน ซึ่งหลังจากพระองค์ท่านเสด็จสวรรคต เมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2538 สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ทรงดำรงตำแหน่งองค์ประธานกิตติมศักดิ์สืบต่อมา

สืบสานพระปณิธานของสมเด็จย่า

โครงการด้านทันตสาธารณสุขต่างๆ ที่พระองค์และมูลนิธิพอ.สว. ให้การสนับสนุน เป็นโครงการหรือกิจกรรมที่แก้ปัญหาสุขภาพช่องปากของประชาชนอย่างแท้จริงและ ครบวงจร ทั้งการรักษาโรคในช่องปาก การจัดบริการทันตกรรมป้องกัน การส่งเสริมให้เกิดการดูแลสุขภาพช่องปากตนเอง

กระทรวงสาธารณสุขได้สืบสานพระปณิธานดังกล่าว ด้วยการศึกษาสถานการณ์สุขภาพช่องปากของประชาชนไทยเพื่อหาแนวทางการแก้ปัญหา และพบว่าโรคในช่องปากทั้งฟันผุ เหงือกอักเสบ สภาวะปริทันต์อักเสบ มีความชุกสูง เป็นโรคที่พบได้ทุกเพศทุกวัย แต่ขณะเดียวกันก็เป็นโรคที่ป้องกันได้ สาเหตุมาจากพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม ทั้งการบริโภคอาหารหวาน การทำความสะอาดฟันที่ไม่ถูกวิธี การไปรับบริการทางทันตกรรมเฉพาะเมื่อปวดฟัน เป็นต้น

ดังนั้นเพื่อลดการสูญเสียฟัน กระทรวงสาธารณสุขจึงได้ร่วมมือกับหน่วยงานและองค์กรที่เกี่ยวข้องผลักดัน โครงการสำคัญต่างๆ ซึ่งในปี พ.ศ. 2550


ร่วมมือกับสำนักงานกองทุนสนับสนุนการ สร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และสหวิชาชีพ ในเครือข่ายเด็กไทยไม่กินหวาน เพื่อลดการบริโภคอาหารหวาน โดยเฉพาะในเด็กเล็กและเด็กวัยเรียน

ร่วมกับภาคี มหาวิทยาลัย องค์กรท้องถิ่น และภาคเอกชน เพื่อรณรงค์แปรงฟันในศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก

ร่วมมือกับกระทรวงศึกษาธิการ ในการรณรงค์ให้เด็กประถมศึกษาได้ฝึกทักษะการแปรงฟันอย่างถูกวิธี และได้รับบริการเคลือบหลุมร่องฟันเพื่อป้องกันฟันผุ

สำหรับผู้สูงวัยที่ปัจจุบันมีการสูญเสียฟันไปแล้ว กระทรวงสาธารณสุขได้ร่วมกับหน่วยทันตกรรมพระราชทาน มูลนิธิพอ.สว. คณะทันตแพทยศาสตร์ ทุกมหาวิทยาลัย หน่วยบริการทุกกระทรวง จัดบริการใส่ฟันเทียมตามโครงการฟันเทียมพระราชทาน เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสการจัดงานฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี และในวาระมหามงคล 80 พรรษา ในปี พ.ศ. 2550 นอกจากนี้กระทรวงสาธารณสุขกำลังดำเนินการหามาตรการป้องกันการสูญเสียฟันที่ เหมาะสมแก่ผู้สูงวัย


กิจกรรมรณรงค์

วัน ที่ 21 ตุลาคม ของทุกปีเป็นวันคล้ายวันพระราชสมภพของสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี หรือสมเด็จย่า พระผู้อยู่ในความทรงจำของประชาชนชาวไทย ภาพในความทรงจำของปวงชนชาวไทย คือภาพที่พระองค์ทรงเสด็จเยี่ยมราษฎรในชนบทห่างไกล พร้อมหน่วยแพทย์พอ.สว. ซึ่งมีทันตแพทย์ให้บริการตรวจและรักษาโรคในช่องปากแก่ประชาชนในท้องถิ่น ทุรกันดารห่างไกล หลังจากที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติอนุมัติให้วันที่ 21 ตุลาคม ของทุกปี เป็น "วันทันตสาธารณสุขแห่งชาติ" กระทรวงสาธารณสุขและมูลนิธิพอ.สว. ได้รำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ และสืบสานพระราชปณิธานของพระองค์ ในการจัดกิจกรรมรณรงค์ทางทันตสาธารณสุขเนื่องในวันทันตสาธารณสุขแห่งชาติ 21 ตุลาคม ถวายเป็นพระราชกุศล ในวันคล้ายวันพระราชสมภพ

จากการรณรงค์ใน 48 จังหวัด พอ.สว. ได้ขยายการรณรงค์ครอบคลุมทั่วประเทศ และดำเนินการอย่างต่อเนื่องเป็นประจำทุกปีเพื่อสุขภาพช่องปากของประชาชน แต่ละปีมีประชาชนนับแสนคนที่ได้รับบริการจากกิจกรรมรณรงค์ทางทันตสาธารณสุข เนื่องในวันทันตสาธารณสุขแห่งชาติ โดยไม่คิดมูลค่าภายใต้ชื่องาน "สมเด็จย่าทรงพระเมตตา ให้ปวงประชามีฟันดี" และมีการพัฒนาคุณภาพการบริการ ตลอดจนเปิดโอกาสให้ประชาชนได้รับความรู้ในการดูแลสุขภาพช่องปากตนเองอย่าง ต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน

ด้วยพระปรีชาสามารถและพระมหากรุณาธิคุณด้านทันตกรรม ทำให้ประชาชนโดยเฉพาะในถิ่นทุรกันดารและห่างไกลการคมนาคม ได้รับบริการบำบัดรักษาโรคในช่องปาก มีโอกาสได้รับความรู้ในการดูแลสุขภาพช่องปากตนเอง จึงได้มีการทูลเกล้าฯ ถวายปริญญา ทันตแพทยศาสตร์ดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ ในปี พ.ศ. 2530 โดยมหาวิทยาลัยมหิดลและมหาวิทยาลัยขอนแก่น และในปี พ.ศ. 2533 โดยมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ และในวันที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2533 องค์การอนามัยโลก ได้ทูลเกล้าฯ ถวายเหรียญทองแห่งสุขภาพดีถ้วนหน้าเป็นพระองค์แรกในประวัติการณ์ขององค์การ อนามัยโลก เพื่อประกาศพระเกียรติคุณอันสูงสุดที่ได้ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจอันทรงคุณ ค่าแก่งานสุขภาพอนามัยแห่งชาวโลกทั้งมวล

ในปี พ.ศ. 2549 เป็นอีกครั้งหนึ่งที่กระทรวงสาธารณสุขและมูลนิธิพอ.สว. ได้จัดการรณรงค์ทางทันตสาธารณสุข เนื่องในวันทันตสาธารณสุขแห่งชาติ กระทรวงสาธารณสุขได้ประสานงานไปยังหน่วยบริการภาครัฐทุกแห่ง ทั้งในกระทรวงสาธารณสุข กรุงเทพมหานคร กระทรวงกลาโหม กระทรวงมหาดไทย คณะทันตแพทยศาสตร์ทุกมหาวิทยาลัย ในการจัดบริการตรวจรักษาโรคในช่องปาก รวมทั้งการให้คำแนะนำในการดูแลสุขภาพช่องปากแก่ประชาชนโดยไม่คิดมูลค่า และร่วมกันถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระองค์ท่านพร้อมกันทั่วประเทศในวันที่ 20 ตุลาคม พ.ศ. 2549 นอกจากนี้ยังได้จัดการรณรงค์ "สมเด็จย่าทรงพระเมตตา ให้ปวงประชามีฟันดี" เพื่อเปิดโครงการจัดการรณรงค์ทางทันตสาธารณสุขเนื่องในวันทันตสาธารณสุขแห่ง ชาติ ปี พ.ศ. 2549

มีการจัดนิทรรศการเทิดพระเกียรติสมเด็จย่า จัด นิทรรศการเพื่อการดูแลสุขภาพและสุขภาพช่องปากที่กรมอนามัย เมื่อวันที่ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2549 โดยมุ่งหวังว่าประชาชนทั่วไปจะรับรู้และร่วมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของ สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนีที่ทรงมีต่อวิชาชีพทันตกรรมและวันทันตสาธารณ สุขแห่งชาติ รวมทั้งได้รับความรู้ในการดูแลสุขภาพและสุขภาพช่องปากด้วยตนเอง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งที่นำไปสู่การเป็นผู้สูงวัยที่มีสุขภาพแข็งแรงและคุณภาพ ชีวิตที่ดีตามยุทธศาสตร์ "เมืองไทยแข็งแรง" ของกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งเป็นวาระแห่งชาติต่อไป
Posted by Picasa
Share this post :

แสดงความคิดเห็น

คลังบทความของบล็อก

ป้ายกำกับ

โครงการ (68) ประชุม (31) ร่วมพิธี (31) ศึกษาดูงาน (31) กีฬา (18) ต้อนรับ (13) ทำเนียบบุคคลากร (13) ดูงาน (12) อวยพรปีใหม่ (11) งานเลี้ยง (10) มอบเกียรติบัตร (10) ตรวจเยี่ยม (9) เข้าเยี่ยมคารวะ (9) ทำเนียบผู้พิพากษา (8) ทำเนียบเจ้าหน้าที่ (7) ประวัติศาล (7) นักศึกษาฝึกงาน (6) ประสานความร่วมมือ (6) รับเสด็จ (6) เอกสารที่ต้องใช้ในการขอประกันตัว (6) จังหวัดเคลื่อนที่ (5) วันสำคัญ (5) MOU (4) กิจกรรม (4) อบรม (4) ตรวจศาล (3) ถวายพวงมาลัย (3) ประชาสัมพันธ์ (3) ประวัติศาล ภาค๙ (3) ฝึกอบรม (3) รายงานตัว (3) ศาลอื่นๆ (3) เยี่ยมแสดงความยินดี (3) โยกย้าย (3) Linkเว็บศาลยุติธรรม (2) งานศพ (2) ทำบุญตักบาตร (2) ทำเนียบข้าราชการตำรวจ (2) บันทึกเทป (2) ฝึกซ้อมแผนเผชิญเหตุ (2) รดน้ำดำหัว (2) วันมหิดล (2) สักการะศาลพระภูมิ (2) Action (1) Adventure (1) video conference (1) งานแต่งงาน (1) ตรวจรับพัสดุ (1) ทำเนียบ รปภ. (1) ทำเนียบเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย (1) บรรยาย (1) ประกาศ (1) ประชุมทางไกล (1) ประเพณีสงขลา (1) ปลดเผาสำนวน (1) วันรพี (1) วันเกิด (1) วารสาร (1) สรุปข่าวประจำเดือน (1) สัมมนา (1) เศรษฐกิจพอเพียง (1)

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

 
Support : Creating Website By SU| |
Copyright © 2013. ศาลสงขลา - All Rights Reserved
Template Created by SU
Proudly powered by Blogger