เมื่อ วันที่ ๒๑ มกราคม ๒๕๕๖ เวลา ๐๙.๐๐ - ๑๒.๐๐ น. นายวสุพัชร์ จงเพิ่มวัฒนะผล ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดสงขลา นางสาวรวิภัทร โชคเจริญเลิศ ผู้พิพากษารองหัวหน้าศาลจังหวัดสงขลา นายปรารภ เทพรักษ์ ผู้อำนวยการสำนักอำนวยการประจำศาลจังหวัดสงขลา พร้อมด้วยหัวหน้าส่วน และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ให้การต้อนรับ นางเจิดจันทร์ แก้วอำไพ ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลจังหวัดกระบี่ นางปราณี สายนาค นักวิชาการเงินและบัญชีชำนาญการพิเศษ รักษาการณ์ แทนผู้อำนวยการ ประจำศาลจังหวัดกระบี่ และคณะจำนวน 15 คน เข้าศึกษาดูงานระบบงานในส่วนต่าง ๆ ของศาลจังหวัดสงขลา แลกเปลี่ยนประสบการณ์ ความรู้ และ หาวิธีการแก้ไขปัญหาข้อขัดข้อง ในการปฏิบัติงาน ../.
ศาลจังหวัดกระบี่ มีชื่อเดิมว่า "ศาลเมืองกระบี่" ศาลเมืองกระบี่จะเริ่มจัดตั้งเมื่อปี ร.ศ. ใด ไม่ปรากฎหลักฐานชัด มีเพียงหนังสือราชกิจจานุเบกษาปี ร.ศ.๑๑๙ เล่ม ๑๗ ว่า
ศาลเมืองกระบี่ได้รับราชกิจจานุเบกษาจากพนักงานไปรษณีย์เมื่อวันที่ ๒๔/๔/๑๑๙ จึงคาดหมายได้ว่า ศาลเมืองกระบี่ เริ่มจัดตั้งเมื่อประมาณปี ร.ศ.๑๑๙ พร้อม ๆ กับที่ศาลากลางจังหวัดกระบี่ได้ย้ายมาตั้งอยู่ที่ตำบลปากน้ำ อันเป็นสถานที่ตั้งตัวเมืองกระบี่ในปัจจุบัน ศาลเมืองกระบี่ขึ้นตรงต่อศาลมณฑลภูเก็ต ตัวอาคารศาลจังหวัดกระบี่เดิมจะตั้งอยู่ที่ใดไม่ปรากฎชัด แต่พอคาดหมายได้ว่าตัวอาคาราลจังหวัดกระบี่ จะรวมอยู่กับศาลากลางจังหวัดกระบี่ ทั้งนี้เพราะศาลากลางจังหวัดกระบี่สร้างตั้งแต่ปี ร.ศ.๑๑๙ นอกจากนี้ตามหนังสือของหลวงธำรง อธิบดีผู้พิพากษาศาลมณฑลภูเก็ตที่ ๑/๖ ลงวันที่ ๗ รัตนโกสินศก ๑๒๘ ที่มีถึงขุนสรรพากร ผู้พิพากษาศาลเมืองกระบี่ ว่า "เรื่องที่จะทำศาลเมืองกระบี่นั้นได้จ้างเหมาให้จีนเตียวฟองเป็นผู้ทำราคา ๔,๓๐๐ บาท แต่การที่จะทำศาลนั้นผู้รับเหมาจะต้องทำตามแปลน และหนังสือสัญญา....ฯลฯ" ซึ่งพอจะแสดงให้เห็นว่า การสร้างอาคารศาลเริ่มสร้างเป็นครั้งแรกใน ร.ศ.๑๒๘ นั้นเอง และการก่อสร้างตัวอาคารศาลได้สร้างเสร็จเรียบร้อยในปีเดียวกัน ทั้งนี้ปรากฏตามหนังสือของขุนสรรพากร ผู้พิพากษาศาลเมืองกระบี่ว่า "ด้วยศาลเมื่อกระบี่ที่จัดการปลูกสร้างใหม่นั้น บัดนี้ช่างได้จัดการปลูกสร้างสำเร็จบริบูรณ์ตามสัญญาแล้ว..." อาคารศาลหลังดังกล่าวปลูกสร้างอยู่ในที่ดินราชพัสดุของศาลแปลงเก่าซึ่ง ปัจจุบันนี้เป็นที่ตั้งอขงโรงเรียนอนุบาลกระบี่ อยู่ตรงกันข้ามกับสถานีตำรวจภูธรเมืองกระบี่ ห่างจากที่ตั้งอาคารศาลปัจจุบันประมาณ ๒ เส้น อาคารศาลหลังนั้นเป็นอาคารไม้ใต้ถุนสูงหลังคามุงกระเบื้อง เป็นอาคารที่โอ่อ่าภูมิฐานและทันสมัย ขณะนั้นศาลยังใช้ชื่อว่า ศาลเมืองกระบี่ และคงใช้ชื่อศาลเมืองกระบี่มาจนถึงต้นเดือนมิถุนายน พ.ศ.๒๔๕๙ ต่อมาได้เปลี่ยนใช้ชื่อว่า ศาลจังหวัดกระบี่ เมื่อกลางเดือนมิถุนายน พ.ศ.๒๔๕๙ จนถึงต้นเดือนเมษายน พ.ศ.๒๔๘๐ จึงเปลี่ยนชื่อใหม่เป็น "ศาลจังหวัดกะบี่" ต่อมาเมื่อเดือน กันยายน พ.ศ.๒๕๒๓ ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลในขณะนั้น ได้ทำหนังสือถึงกระทรวงยุติธรรมขอเปลี่ยนชื่อใหม่เป็น "ศาลจังหวัดกระบี่" และคงใช้ชื่อดังกล่าวต่อมาจนถึงปัจจุบัน เหตุใดที่ชื่อศาลมีการเปลี่ยนหลายครั้งนั้นไม่ปรากฎหลักฐานชัด
แสดงความคิดเห็น