เมื่อวันที่ ๔ มีนาคม ๒๕๕๖
นายวสุพัชร์ จงเพิ่มวัฒนะผล ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดสงขลา มอบหมายให้
นายปรารภ เทพรักษ์ ผู้อำนวยการสำนักอำนวยการประจำศาลจังหวัดสงขลา พร้อม ด้วย
นางมัทนียา สีดำ เจ้าหน้าที่ศาลยุติธรรม ปฐมนิเทศนักศึกษาฝึกงาน ณ.ห้องประชุม ใหญ่ ศาลจังหวัดสงขลา ... เพื่อให้ทราบถึง ระเบียบข้อปฏิบัติเบื้องต้น ในการเข้ามาอยู่ฝึกงานในศาล จังหวัดสงขลา ..เช่น ให้นักศึกษาฝึกงานทุกท่านแต่งกายด้วยชุดนิสิตหรือนักศึกษาให้เรียบร้อย ประพฤติตนสุภาพ อ่อนน้อม รวมทั้งให้ความเคารพสถานที่ และไม่ส่งเสียงดัง หรือหลอกล้อกันจนเกินพอดี ติดบัตร แสดงตน ตลอดระยะเวลาที่อยู่ในศาล. มี นักศึกษา จาก วิทยาลัยอาชีวศึกษาสงขลา จำนวน 9 คน จาก ราชภัฏนครศรีธรรมราช 1 คน รุ่น นี้ มาฝึกงานทั้งหมด 10 คน
ประวัติวิทยาลัยอาชีวศึกษาสงขลา วิทยาลัยอาชีวศึกษาสงขลา จัดตั้งขึ้นบนพื้นที่ราชพัสดุ จำนวน 7 ไร่ 6.8 ตารางวา เมื่อวันที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2481 มีชื่อว่า "โรงเรียนตัดเย็บเสื้อผ้าสงขลา" สังกัดกรมวิชาการ กระทรวงธรรมการ โดยรับผู้สำเร็จการศึกษาชั้นประถมปีที่ 4 เข้าเรียนวิชา แผนกช่างเย็บเสื้อผ้า แผนกช่างทอผ้า พ.ศ. 2490 ได้เปลี่ยนชื่อเป็น "โรงเรียนการช่างสตรีสงขลา" สังกัดกองโรงเรียนการช่างกรมอาชีวศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ เปิดสอนแผนการช่างสตรีเพียงแผนกเดียว และเรียกชื่อระดับชั้นว่า มัธยมอาชีวศึกษาตอนต้น รับผู้สำเร็จการศึกษาชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 เข้าเรียน
พ.ศ. 2516 เปลี่ยนชื่อใหม่เป็นโรงเรียนอาชีวศึกษาสงขลา พ.ศ. 2519 และในปี 2518 ได้ขอใช้ที่ดินของการรถไฟแห่งประเทศไทยเพิ่มอีกจำนวน 4 ไร่ 1 งาน 50 ตารางวา รวมเนื้อที่ทั้งหมด 11 ไร่ 1 งาน 56.8 ตารางวา โดยได้รับการพัฒนาปรับปรุงและยกฐานะเป็นวิทยาลัยอาชีวศึกษาสงขลา วิทยาเขต 2 โดยรวมกับโรงเรียนเทคนิคสงขลาซึ่งเป็นวิทยาเขต 1 ต่อมาในปี พ.ศ. 2522 แยกจากวิทยาลัยอาชีวศึกษาสงขลา วิทยาเขต 2 มาเป็น "วิทยาลัยอาชีวศึกษาสงขลา"
ในปี พ.ศ. 2541 ไได้เปิด "วิทยาลัยอาชีวศึกษาสงขลา สาขาสิงหนคร(รัตน์ ประธานราษฎ์นิกร)" ขึ้นที่ ตำบลม่วงงาม อำเภอสิงหนคร จังหวัดสงขลา โดยได้รับบริจาคที่ดินจาก ดร.รัตน์ ประธานราษฎร์นิกร จำนวน 25 ไร่ และวิทยาลัยฯ ได้ดำเนินการจัดซื้อเพิ่มอีก 1 ไร่ 3 งาน 36 ตารางวา รวมเป็นพื้นที่ 26 ไร่ 3 งาน 36 ตารางวา
ในปี พ.ศ. 2552 วิทยาลัยอาชีวศึกษาสงขลา สาขาสิงหนคร(รัตน์ ประธานราษฎร์นิกร) ได้แยกตัวเป็นวิทยาลัยจัดตั้งใหม่ โดยใช้ชื่อว่า "วิทยาลัยเทคโนโลยีและการจัดการสิงหนคร(รัตน์ ประธานราษฎร์นิกร)"
Nakhon si Thammarat Rajabhat University :: ราชภัฏนครศรีธรรมราช 2554
ปี่ที่ก่อตั้ง | | พ.ศ. 2500 |
ที่ตั้งปัจจุบัน | | เลขที่ 1 ถนนนครศรีธรรมราช - นบพิตำ (ทางหลวงหมายเลข 4016 ) หมู่ที่ 4 ตำบลท่างิ้ว อำเภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช 80280 |
ปรัชญาประจำมหาวิทยาลัย | | ประทีปถิ่น ประเทืองไทย |
สีประจำมหาวิทยาลัย | | สีเหลือง และสีแดง |
พื้นที่ปัจจุบัน | | 299 ไร่ 50.40 ตารางวา โฉนด หมายเลข 596 |
สาขาที่จัดการเรียนการสอน | | สาขาการศึกษา สาขาศิลปศาสตร์ สาขาวิทยาศาสตร์ สาขาบริหารธุรกิจ สาขานิติศาสตร์ สาขาบัญชี |
คณะที่จัดการเรียนการสอน | | คณะครุศาสตร์ คณะวิทยาศาตสตร์และเทคโนโลยี คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ คณะวิทยาการจัดการ คณะเทคโนโลยีอุตสาหกรรม สำนักงานคณะกรรมการบัณฑิตศึกษา |
ประวัติมหาวิทยาลัยการสถาปนาโรงเรียนฝึกหัดครูนครศรีธรรมราช ก่อนมาเป็นมหาวิทยาลัย สถานศึกษาแห่งนี้มีกำเนิดมาจาก โรงเรียนฝึกหัดครู พัฒนามาเป็น วิทยาลัยครู สถาบันราชภัฏ และเป็น มหาวิทยาลัย ในที่สุดณพื้นที่ประมาณ300ไร่บริเวณเชิงเขามหาชัยหมู่ที่4ตำบลท่างิ้วอำเภอ เมืองจังหวัดนครศรีธรรรมราชห่างจากตัวเมืองนครศรีธรรมราชไปทางทิศตะวันตกตาม ถนนนคร-นบพิตำเป็นระยะทาง13กิโลเมตรเป็นสถานที่ที่อดีตรัฐมานตรีว่าการ กระทรวงศึกษาธิการพลเอกมังกรพรหมโยธีได้มาสำรวจและตกลงใจที่จะจัดตั้ง โรงเรียนฝึกหัดครูขึ้นมาใหม่ในจังหวัดนครศรีธรรมราชจนเมื่อวันที่1มกราคม พ.ศ.2500กระทรวงศึกษาธิการได้ประกาศจัดตั้งโรงเรียนฝึกหัดครูนครศรีธรรมราช เชื่อว่าประกาศจัดตั้งครั้งนั้นเพราะอิทธิพลทางการเมืองเพราะได้ยุบโรงเรียน ฝึกหัดครูตรังย้ายครูอาจารย์และทรัพย์สินมาสังกัดโรงเรียนฝึกหัดครูนครศรี ธรรมราชและได้เปิดสอนระดับประกาศนียบัตรวิชาการศึกษา(ป.กศ.)ในปีนั้นเองแต่ เนื่องจากก่อสร้างอาคารเรียนไม่ทันจึงเปิดทำการสอนชั่วคราวที่อาคารห้องสมุด ประชาชนสนามหน้าเมืองจังหวัดนครศรีธรรมราชเมื่ออาคารเรียนและหอนอนก่อสร้าง เสร็จแล้วในปีพ.ศ.2502จึงเปิดสอนเป็นการถาวรณบริเวณเชิงเขามหาชัยการจัดตั้ง โรงเรียนฝึกหัดครูขึ้นในจังหวัดนครศรีธรรมราชใน พ.ศ.2500 มิใช่เป็นการตั้งครั้งแรก เพราะก่อนหน้านี้ 52 ปี คือพ.ศ.2448ตรงกับรัชสมัยพระบามสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้มีการจัดตั้งโรงเรียนฝึกหัดครูเมืองนครศรีธรรมราชขึ้นมาก่อนแล้วโดยใช้ กุฏิของพระวัดท่าโพธิ์เป็นสถานที่เรียนมีนักเรียนฝึกหัดครูรุ่นแรก22คนจึง อาจกล่าวได้ว่าการจัดตั้งโรงเรียนฝึกหดครูนครศรีธรรมราชขึ้นใหม่ในพ.ศ.2500 นั้นเท่ากับการเจริญรอยตามนโยบายจัดการศึกษาของสมเด็จพระปิยมหาราช นั่นเอง |
|
จากโรงเรียนฝึกหัดครูสู่วิทยาลัยครู หลังจากโรงเรียนฝึกหัดครูนครศรีธรรมราชเปิดสอนมาครบ 12 ปี กระทรวงศึกษาธิการประกาศยกระดับฐานะเป็น วิทยาลัยครูนครศรีธรรมราช เมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์2512และเปิดสอนถึงระดับประกาศนียบัตรวิชาการศึกษาชั้นสูง (ป.กศ.ชั้นสูง)ประจวบกับช่วงเวลาดังกล่าวกระทรวงศึกษาธิการมีนโยบายเร่งรัด การผลิตครู จึงได้เปิดสอนภาคนอกเวลาแก่บุคคลภายนอกในหลักสูตร ป.กศ. และป.กศ.ชั้นสูงด้วยโครงการนี้ดำเนินการเรื่อยมาและสิ้นสุดโครงการเมื่อพ. ศ.2519ปีการศึกษา 2517วิทยาลัยครูสังกัดกรมการฝึกหัดครูรวม17วิทยาลัยได้เริ่มเปิดสอนหลักสูตร ปริญญาตรีครุศาสตรบัณฑิตหลักสูตร2ปีรับผู้สำเร็จป.กศ.ชั้นสูงหรือสำเร็จ ประโยคครูมัธยม(พ.ม.)วิทยาลัยครูนครศรีธรรมราชเป็น1ใน17ของวิทยาลัยครูที่ เปิดสอนหลักสูตรปริญญาตรีดังกล่าวสำหรับในปีแรกเปิดสอนวิชาเอกวิทยาศาสตร์ ทั่วไปเพียงวิชาเดียวปีการศึกษา2518มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯให้ตราพระ ราชบัญญัติวิทยาลัยครูพุทธศักราช2518วิทยาลัยครูนครศรีธรรมราชจึงได้รับการ ยกฐานะเป็นวิทยาลัยครูตามพระราชบัญญัติดังกล่าวโดยมีหน้าที่ระบุไว้ในพระราช บัญญัติวิทยาลัยครูพุทธศักราช2518ดังนี้มาตรา5ให้วิทยาลัยครูเป็นสถาบันการ ศึกษาและการวิจัย มีวัตถุประสงค์ให้การศึกษา วิชาการ และผลิตครูถึงระดับปริญญาตรี ทำการวิจัย ส่งเสริมวิชาชีพและวิทยฐานะของครูอาจารย์และเจ้าหน้าที่บริหารการศึกษา ทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรมและให้บริการทางวิชาการแก่สังคมปีการ ศึกษา2527วิทยาลัยครูนครศรีธรรมราชเป็นวิทยาลัยหนึ่งที่ได้รับการประกาศ จากกระทรวงศึกษาธิการให้เป็นวิทยาลัยชุมชนในวิทยาลัยครูตามนโยบายของกระทรวง ศึกษาธิการที่กระจายโอกาสทางการศึกษาระดับสูงออกสู่ประชาชนและเร่งรัดการ จัดการศึกษาเพื่อพัฒนาและสร้างกำลังคนที่มีความรู้ความสามารถในสาขาวิชาชีพ ต่างๆเพื่อการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมในท้องถิ่นวิทยาลัยครูนครศรีธรรมราชจึง เปิดสอนหลักสูตรประกาศนียบัตรเทคนิคการอาชีพ(ป.ทอ.)เนื่องจากพระราชบัญญัติ วรที่กระจายโอกาสทางการศึกษาระดับสูงออกสู่ประชาชนและเร่งรัดการจัดการที่ กระจายโอรที่กุทธศักราช2527ได้กำหนดให้วิทยาลัยครูสามารถจัดการศึกษาสาขา วิชาการอื่น ในระดับปริญญาตรีได้ตามความต้องการของท้องถิ่นนอกเหนือจากสาขาวิชาชีพครูจึง ได้ปรับรายวิชาหลักสูตรของประกาศนียบัตรเทคนิคการอาชีพ (ป.ทอ.) เข้าเป็นหลักสูตรอนุปริญญาวิชาเอกพืชศาสตร์ และวิชาเอกก่อสร้าง |
|
จากวิทยาลัยครูสู่สถาบันราชภัฏ พ.ศ.2538 ได้มีพระราชบัญญัติสถาบันราชภัฏ พ.ศ.2538 ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯพระราชทานเมื่อวันที่ 14กุมภาพันธ์พ.ศ.2535 แล้ววิทยาลัยครูทั้งหมดทั่วประเทศได้เปลี่ยนชื่อเป็นสถาบันราชภัฏตามพระราช บัญญัติสถาบันราชภัฏพ.ศ.2538เป็นสถาบันอุดมศึกษาในกระทรวงศึกษาธิการทำ หน้าที่พัฒนาท้องถิ่น มีวัตถุประสงค์คือให้การศึกษาวิชาการและวิชาชีพชั้นสูงเปิดสอนในระดับสูง กว่าปริญญาตรีและมีหน้าที่ทำการวิจัยให้บริการทางวิชาการแก่สังคม ปรับปรุงถ่ายทอดและพัฒนาเทคโนโลยีทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรมผลิตครูและส่งเสริม วิทยฐานะครูปีการศึกษา2538-2542สถาบันราชภัฏนครศรีธรรมราชได้ทำหน้าที่กว้าง ไกลตามความเปลี่ยนแปลงของสังคมโดยเน้นการพัฒนาคุณภาพและคุณวุฒิของคนในท้อง ถิ่นให้สูงขึ้นให้สามารถประกอบอาชีพอยู่ในสังคมหรืออยู่ในท้องถิ่นอย่างมี คุณภาพสถาบันจึงมุ่งมั่นที่จะปฏิบัติตามปณิธานที่ว่าแต่งบ้านให้น่าอยู่แต่ง ภูมิรู้ให้แตกฉานสืบสานวัฒนธรรมนำชุมชนพัฒนาและปรับแต่งบรรยากาศด้านกายภาพ ของสถาบันให้เป็นสถาบันอุดมศึกษาเพื่อพัฒนาท้องถิ่นอย่างแท้จริงปีการ ศึกษา2542-2545สถาบันได้ดำเนินภารกิจต่งๆขยายขอบเขตมากขึ้นเนื่องจากเป็น ช่วงเวลาที่ต้องเตรียมความพร้อมในด้านต่างๆเพื่อก้าวไปสู่การเป็น มหาวิทยาลัยราชภัฏตามร่างพระราชบัญญัติที่กำลังอยู่ในระหว่างกระบวนการ นิติบัญญัติและการปฏิรูประบบราชการ กิจกรรมสำคัญ ได้แก่ การพัฒนาบุคลากร การปรับระบบงบประมาณ การพัฒนาประสิทธิภาพการบริหาร การเปิดสอนระดับปริญญาบัณฑิตศึกษา การร่วมสร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชนการวิจัยทุกรูปแบบและการประกันคุณภาพ การศึกษาโดยสถาบันได้รับการตรวจเยี่ยมของคณะกรรมการประเมินคุณภาพภายนอกจาก สำนักงานคณะกรรมการรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา (สมศ.) |
|
จากสถาบันราชภัฏสู่มหาวิทยาลัยราชภัฏ สถาบันราชภัฏนครศรีธรรมราช มีศักยภาพทางวิชาการเช่นเดียวกับมหาวิทยาลัย สามารถเปิดสอนทั้งระดับปริญญาตรี ปริญญาโทและปริญญาเอกได้ ในระดับปริญญาตรีเปิดสอน5สาขาวิชาคือสาขาวิชาการศึกษาสาขาวิชาศิลปศาสตร์ สาขาวิชาวิทยาศาสตร์สาขาวิชา-บริหารธุรกิจและสาขาวิชาการบัญชีระดับปริญญาโท เปิดสอนในสามสาขาคือสาขาไทยคดีศึกษาสาขาสังคมศาสตร์เพื่อการพัฒนาและ สาขาบริหารการศึกษานอกจากจะมีภารกิจในด้านจัดการศึกษาแล้วยังมีภารกิจด้าน วิจัยการบริการวิชาการและการทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรมจะเห็นว่าปัจจุบันสถาบัน ได้ปฏิบัติภารกิจและมีศักยภาพทางวิชาการเช่นเดียวกับมหาวิทยาลัยอยู่แล้วจน กระทั่งวันที่ 9 มิถุนายน พ.ศ.2547 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้ตราพระราชบัญญัติเรียก ว่า พระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยราชภัฏ พ.ศ.2547 โดยให้มหาวิทยาลัยราชภัฏแต่ละแห่งเป็นนิติบุคคลและเป็นส่วนราชการตามกฎหมาย ว่าด้วยวิธีงบประมาณในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษาให้เรียกชื่อ มหาวิทยาลัยราชภัฏตามชื่อของสถาบันราชภัฏเดิมตามความในราชกิจจานุเบกษาโดยมี ผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่15มิถุนายนพ.ศ.2547และให้ยกเลิกพระราชบัญญัติ สถาบันราชภัฏ พ.ศ.2538 สถาบันราชภัฏนครศรีธรรมราชจึงเปลี่ยนเป็น มหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราช ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา |
|
แสดงความคิดเห็น