นายมหาชัย ศรีทองกลาง ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดสงขลา เยี่ยมพบปะสนทนาข้อราชการกับ ผู้บัญชาการทัพเรือภาค๒ และคณะ วันที่ ๔ กันยายน ๒๕๕๖

       เมื่อวันที่ ๔ กันยายน ๒๕๕๖  นายมหาชัย ศรีทองกลาง ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดสงขลานายดุสิต ผดุงศักดิ์ ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดสงขลา  นายธีระพงศ์  พงศ์สุภากุล  ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลแขวงสงขลา   เยี่ยม พบปะสนทนาข้อราชการกับ ผู้บัญชาการทัพเรือภาค ๒ และผู้บัญชาการ ฐานทัพเรือสงขลา และคณะ ได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่น เป็นกันเอง รู้สึกประทับใจยิ่ง ในมิตรภาพของท่านผู้บัญชาการฯและคณะ





ประวัติทัพเรือภาคที่ ๒

กระทรวงกลาโหม ได้อนุมัติอัตรา "กองเรือภาค" เมื่อวันที่ ๑๑ มีนาคม พ.ศ.๒๕๓๕ เพื่อปฏิบัติการทางทะเลแทนกองเรือเฉพาะกิจ ทั้งในยามสงบและยามสงคราม ในการปกป้องคุ้มครองเอกราช และอธิปไตยของชาติ รักษาผลประโยชน์ และทรัพยากรของชาติทางทะเล ตลอดจนช่วยเหลือประชาชน ในกรณีมีภัยพิบัติต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และทันต่อเหตุการณ์ โดยปฏิบัติให้เป็นไปตามนโยบายของกองทัพเรือ
      เมื่อ ๑ เมษายน พ.ศ.๒๕๕๒ ได้มี "พระราชกฤษฎีกาแบ่งส่วนราชการและกำหนดหน้าที่ของส่วนราชการกองทัพเรือ กองทัพไทย กระทรวงกลาโหม พ.ศ.๒๕๕๒" กำหนดให้ "ทัพเรือภาคที่ ๒ " เป็นหน่วยขึ้นตรงกองทัพเรือ มีหน้าที่ "ป้องกันราชอาณาจักรและรักษาความมั่นคง รวมทั้งผลประโยชน์ของชาติทางทะเลในพื้นที่รับผิดชอบจากภัยคุกคามต่าง ๆ และดำเนินการเกี่ยวกับการฐานทัพ การป้องกันพื้นที่ การสารวัตรทหาร กิจการพลเรือน และการควบคุมเรือพาณิชย์ตามที่ได้รับมอบหมาย มีผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ ๒ เป็นผู้บังคับบัญชารับผิดชอบ"

ภารกิจ ทัพเรือภาคที่ ๒
๑. ป้องกันราชอาณาจักร
๒. รักษาความมั่นคงและผลประโยชน์ของชาติทางทะเล
๓. ป้องกันและปราบปรามการกระทำผิดกฎหมายในทะเล
๔. ดำเนินการเกี่ยวกับการฐานทัพ การป้องกันพื้นที่ การสารวัตรทหาร กิจการพลเรือนและการควบคุมเรือพานิชย์


พื้นที่รับผิดชอบ



ทัพเรือภาคที่ ๒ กองทัพเรือ รับผิดชอบพื้นที่ทางทะลบริเวณอ่าวไทยตอนล่าง ตั้งแต่ทางบกบริเวณจุดรอยต่อ บ้านเหนาะ อำเภอละแม จังหวัดชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช สงขลา ปัตตานีและนราธิวาส โดยครอบคลุมถึงพื้นที่ ตำบลเกาะเต่า อำเภอเกาะพะงัน จังหวัดสุราษฏร์ธานี จากชายฝั่งทะเลไปจนถึงทะเลจีนใต้ที่ไม่ใช่ทะเลอาณาเขตของประเทศอื่น พื้นที่รับผิดชอบ ๓๔,๕๐๐ ตารางไมล์ทะเล โดยมีกองบัญชาการทัพเรือภาคที่ ๒ เป็นกองบัญชาการ โดยมีสถานที่ตั้งอยู่เลขที่ ๓ ถนนริมทะเล ตำบลบ่อยาง อำเภอเมืองสงขลา จังหวัดสงขลา ๙๐๐๐๐

ภารกิจ

" ปฏิบัติการทางเรือเพื่อรักษาเอกราชและอธิปไตยของชาติเมื่อมีภัยคุกคามจากภายนอกประเทศ
รักษาผลประโยชน์และความมั่นคงของชาติทางทะเล และบริเวณชายฝั่งในพื้นที่รับผิดชอบ "

การปฏิบัติตามภารกิจของทัพเรือภาคที่ ๒ เพื่อให้บรรลุตามเป้าหมายทั้งในยามปกติและในยามสงครามสามารถกำหนดเป็นการปฏิบัติได้ดังนี้
๑. ควบคุมทะเลและขัดขวางการปฏิบัติการของกำลังทางเรือข้าศึก
๒. สนับสนุนและร่วมมือกับเหล่าทัพอื่น รวมทั้งส่วนราชการอื่นในการป้องกันประเทศ
๓. รักษากฎหมายในทะเลตามพระราชบัญญัติบางฉบับที่มอบอำนาจให้เจ้าหน้าที่ทหารเรือ
๔. คุ้มครองแท่นขุดเจาะก๊าซธรรมชาติกลางอ่าวไทยและป้องกันสิทธิและผลประโยชน์ของชาติทางทะเล
๕. คุ้มครองและช่วยเหลือเรือประมงไทยที่ได้รับภัยคุกคามจากฝ่ายตรงกันข้าม
๖. ป้องกันภัยคุกคาม เช่น การแทรกซึมทางทะเลการลักลอบส่งคนและยุทโธปกรณ์ขึ้นฝั่ง
๗. ต่อต้านการก่อการร้าย ช่วยเหลือผู้ประสบภัยในทะเลและลำเลียงทางทะเล
๘. ป้องกันการอพยพ/หลบหนีเข้าเมืองทางทะเลป้องกันและปราบปรามโจรสลัด และ การกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด ศุลกากร การประมงและกฎหมายอื่น ๆ ที่ให้อำนาจเจ้าหน้าที่ทหารเรือ
๙. ป้องกันการทำลายทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมป้องกันและขจัดมลพิษในทะเลและบริเวณชายฝั่ง

การจัดหน่วยและการประกอบกำลัง
ทัพเรือภาคที่ ๒ มีการจัดหน่วยและการประกอบกำลังดังนี้
๑. หมวดเรือเฉพาะกิจทัพเรือภาคที่ ๒ ประกอบด้วยเรือชนิดต่าง ๆ เช่น เรือฟริเกต เรือคอร์เวต เรือตรวจการณ์ปราบเรือดำน้ำ เรือตรวจการณ์ปืน เป็นต้น
๒. หมวดบินเฉพาะกิจทัพเรือภาคที่ ๒ ประกอบด้วยอากาศยานประเภทต่างๆ เช่น บ.ดอร์เนียร์ บ.T-337 และ ฮ. S-76 B
๓. ชุดปฏิบัติการพิเศษทัพเรือภาคที่ ๒ ประกอบด้วย ๒ ชุดปฏิบัติการพิเศษนักทำลายใต้น้ำจู่โจม

แนวความคิดในการปฏิบัติ
เนื่องจากในสถานการณ์ปัจจุบัน ซึ่งยังอยู่ในขั้นยามสงบดังนั้น ทัพเรือภาคที่ ๒ จึงได้ยึดถือการปฏิบัติกิจโดยมุ่งเน้นการปฏิบัติการลาดตระเวนทางทะเล การคุ้มครองช่วยเหลือเรือประมงไทย การคุ้มครองแหล่งทรัพยากรธรรมชาติในทะเลการป้องกัน และปราบปรามการกระทำผิดในทะเล ตามกฎหมายระหว่างประเทศที่ให้อำนาจเจ้าหน้าที่ทหารเรือ การป้องกันการแทรกซึมลักลอบส่งคนและยุทโธปกรณ์ขึ้นสู่ฝั่ง ปราบปรามยาเสพติด การช่วยเหลือผู้ประสบภัยในทะเล ตลอดจนการป้องกันการทำลายทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ป้องกันและขจัดมลพิษในทะเลบริเวณชายฝั่ง จากแนวความคิดในการปฏิบัติข้างต้น ทัพเรือภาคที่ ๒ ได้กำหนดการปฏิบัติของหน่วยกำลังเพื่อให้บรรลุตามกิจที่ได้รับมอบดังนี้

๑. กำลังทางเรือ จัดเรือประเภทต่าง ๆ ออกลาดตระเวนเฝ้าตรวจ ในพื้นที่รับผิดชอบโดยเน้นบริเวณแนวเส้นแบ่งเขตไหล่ทวีปไทย - เวียดนาม (KC.LINE) ตลอด ๒๔ ชั่วโมง โดยทั่วไปจะจัดให้มีเรือในพื้นที่อย่างน้อยครั้งละ ๒ ลำ นอกจากนี้ทัพเรือภาคที่ ๒ ยังได้เตรียมกำลังทางเรือให้พร้อมอยู่ตลอดเวลาที่สามารถไปปฏิบัติกิจเร่งด่วน กรณีที่ได้รับคำสั่งจากหน่วยเหนือ หรือการปฏิบัติกิจพิเศษอื่น ๆ เช่น การถวายความปลอดภัยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และพระบรมวงศานุวงศ์ การจัดหมู่เรือช่วยเหลือผู้ประสบภัยในทะเลอันจากเกิดพายุใต้ฝุ่นต่าง ๆ การจัดเรือสนับสนุนการขจัดคราบน้ำมันในทะเล ซึ่งเกิดรั่วไหลจากอุบัติเหตุเรือสินค้าโดนกัน หรือเกยหินโสโครก
และการปราบปรามการกระทำอันเป็นโจรสลัด
๒. กำลังอากาศนาวี จัดอากาศยานลาดตระเวนสนับสนุนการปฏิบัติการของเรือในพื้นที่รับผิดชอบ วันละ ๒ เที่ยวบิน รวมทั้งการจัดอากาศยานให้พร้อมในการปฏิบัติกิจพิเศษอื่น ๆ เช่น การรับผู้ป่วยจากเรือในทะเลนำมาส่งยังฝั่งในกรณีฉุกเฉิน เป็นต้น
๓. กำลังชุดปฏิบัติการพิเศษ จัดนักทำลายใต้น้ำจู่โจม ปฏิบัติการสนับสนุนการปฏิบัติการทางเรือ และการปฏิบัติการพิเศษตามที่ได้รับมอบหมาย รวมทั้งดำเนินการในด้านการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมในทะเล เช่น การวางทุ่นหมายเขต การฝึกอาสาสมัครนักดำน้ำเพื่องานอนุรักษ์ เป็นต้น

การปฏิบัติของกองเรือภาคที่ ๒ เท่าที่ผ่านมานับว่าสามารถปฏิบัติได้บรรลุตามภารกิจที่ได้รับมอบหมายได้เป็นอย่างดี โดยสามารถยับยั้งไม่ให้ประเทศเพื่อนบ้านเข้ามาจับยึดเรือประมงไทยในลักษณะโจรสลัดในเขตไหล่ทวีปของไทยได้ กับยังสามารถช่วยเหลือชาวประมงไทยที่ประสบภัยในพื้นที่รับผิดชอบได้อย่างทันท่วงที ทำให้ชาวประมงเกิดความมั่นใจว่ากองทัพเรือสามารถให้ความคุ้มครองในการประกอบอาชีพได้อย่างปลอดภัย

ทะเล เป็นแหล่งก่อเกิดวัฒนธรรมและอารยธรรมมาแต่ครั้งโบราณกาล เป็นแหล่งอาหาร และกิจกรรมร่วมกันของมวลมนุษยชาติจนก่อเกิดความรุ่งเรือง นอกจากนี้ยังเป็นเส้นทางลำเลียงสินค้าที่สำคัญยิ่ง โดยประเทศไทยใช้การขนส่งสินค้าทางทะเลมากกว่าร้อยละ ๙๐ ของการขนส่งสินค้า เข้า - ออก ประเทศทั้งหมด ซึ่งเป็นหน้าที่ของกองทัพเรือที่จะรักษาเส้นทางลำเลียงสินค้าแห่งนี้ให้ปลอดภัยสามารถใช้ได้ตลอดเวลาตามที่ต้องการ ตลอดจนอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติทางทะเลอื่น ๆ ให้ยั่งยืนคงอยู่ตลอดไปตราบนานเท่านาน กำลังพลของกองเรือภาคที่ ๒ กองเรือยุทธการ จะหมุนเวียนผลัดเปลี่ยนกันออกปฏิบัติหน้าที่ในการคุ้มครองและรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลตลอดเวลา ด้วยความสำนึกในภารกิจและหน้าท ี่อันสำคัญยิ่งที่ได้รับมอบหมาย ไม่ว่าจะเหนื่อยยาก ทุกข์เข็ญเพียงใด ก็จะไม่ย่อท้อ สิ่งเดียวทียึดมั่นประจำใจของเราคือ จะรักษาทะเลผืนนี้ไว้ ให้เป็นสมบัติของพี่น้องชาวไทยให้ตกถึงมือลูกหลานตลอดไป
Share this post :

แสดงความคิดเห็น

คลังบทความของบล็อก

ป้ายกำกับ

โครงการ (68) ประชุม (31) ร่วมพิธี (31) ศึกษาดูงาน (31) กีฬา (18) ต้อนรับ (13) ทำเนียบบุคคลากร (13) ดูงาน (12) อวยพรปีใหม่ (11) งานเลี้ยง (10) มอบเกียรติบัตร (10) ตรวจเยี่ยม (9) เข้าเยี่ยมคารวะ (9) ทำเนียบผู้พิพากษา (8) ทำเนียบเจ้าหน้าที่ (7) ประวัติศาล (7) นักศึกษาฝึกงาน (6) ประสานความร่วมมือ (6) รับเสด็จ (6) เอกสารที่ต้องใช้ในการขอประกันตัว (6) จังหวัดเคลื่อนที่ (5) วันสำคัญ (5) MOU (4) กิจกรรม (4) อบรม (4) ตรวจศาล (3) ถวายพวงมาลัย (3) ประชาสัมพันธ์ (3) ประวัติศาล ภาค๙ (3) ฝึกอบรม (3) รายงานตัว (3) ศาลอื่นๆ (3) เยี่ยมแสดงความยินดี (3) โยกย้าย (3) Linkเว็บศาลยุติธรรม (2) งานศพ (2) ทำบุญตักบาตร (2) ทำเนียบข้าราชการตำรวจ (2) บันทึกเทป (2) ฝึกซ้อมแผนเผชิญเหตุ (2) รดน้ำดำหัว (2) วันมหิดล (2) สักการะศาลพระภูมิ (2) Action (1) Adventure (1) video conference (1) งานแต่งงาน (1) ตรวจรับพัสดุ (1) ทำเนียบ รปภ. (1) ทำเนียบเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย (1) บรรยาย (1) ประกาศ (1) ประชุมทางไกล (1) ประเพณีสงขลา (1) ปลดเผาสำนวน (1) วันรพี (1) วันเกิด (1) วารสาร (1) สรุปข่าวประจำเดือน (1) สัมมนา (1) เศรษฐกิจพอเพียง (1)

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

 
Support : Creating Website By SU| |
Copyright © 2013. ศาลสงขลา - All Rights Reserved
Template Created by SU
Proudly powered by Blogger